ใครๆก็สามารถเป็นสื่อได้ หลายคนเป็นคนดังจากสื่อพลเมืองนี้ เช่นล่าสุด ก็คือ น้องจ๊ะ คันหู ที่น้อยคนนักที่จะไม่รู้จัก แม้กระทั่งในวงการข่าวเอง หลายสำนักข่าวให้ความสำคัญกับการส่งข่าวผ่านข้อความ 140 ตัวอักษร ผ่านทวิตเตอร์ ใครทวิตบ่อยๆประเด็นดีๆ ก็มีโอกาสก้าวหน้า และมีผลต่อการประเมินการขึ้นเงินเดือน หรือรับเข้าทำงาน
คำว่า Social Medea ดร.มานะ ตรีรยาภิวัฒน์ รองคณบดี คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และยังดำรงดำแหน่งกรรมการบริหารสภาวิชาชีพข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย อนุกรรมการวิชาการ สภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ มองว่าในแง่มุมของการสื่อสารเดิมที่มีอยู่ โดยเนื้อแท้ จะเป็นการสื่อสารในทางเดียว one way communication เนื้อหาไม่ว่าจะเป็น ภาพ เสียง ถูกกำหนดโดยผู้ผลิต แต่ผู้บริโภคไม่สามารถคัดค้าน เปลี่ยนแปลงหรือโต้แย้งได้ ทำได้อย่ามากก็โทรศัพท์หรือเขียนจดหมายไปร้องเรียนเท่านั้นต่างจาก Social Medea ที่สามารถสื่อสารได้สองทาง
ดร.มานะ บอกว่าเพียงแค่ประชาชนที่มีอินเทอร์เน็ต ก็สารมารถส่งผ่านข้อมูลข่าวสารได้อย่างง่ายดาย เพราะฉนั้นในวงการข่าวจึงต้องเปลี่ยนความคิด ตั้งแต่การทำข่าว โดยจะต้องเน้นผู้บริโภคมากขึ้น ต้องรู้ว่าผู้บริโภคอยากได้อะไร สนใจอะไร ไม่อย่างนั้นจะถูกมองว่าใช้โซเชียลมีเดียได้ไม่ครบ ยุคนี้ผู้บริโภคไม่ทน หงุดหงิดง่ายมาก Social Media จึงมีพลังมาก นักข่าวทั่วโลกจึงต้องอยู่ในเทรนด์ ให้มากที่สุดเพราะโลกยุคใหม่เน้นการมีส่วนร่วม ไม่งกข้อมูล "เหมือนเด็กหน้าห้อง" อย่างน้อยนักข่าวต้องมีบล๊อกส่วนตัว (นี่คือเหตุผลที่ผมเริ่มสร้างบล๊อกส่วนตัวขึ้นมา)จะทำอะไรก็ต้องอั๊ปเดท ตลอดเวลา
การหาประเด็นข่าว หรือหาแหล่งข่าว สามารถตามแหล่งข่าวใหม่ๆได้ง่ายขึ้น เช่นสมมุติว่ามีใครตายในท่าพิศดาร ถ้าเรานึกถึงใครถ้าเรามีSocail Media ก็จะสามารถหาคนๆนั้นได้ เพราะนักวิชาการไม่ได้รู้ทุกเรื่อง บางที่ก็ตอบทุกเรื่องแม้แต่เรื่องที่ไม่รู้ ข่าวในอนาคตจะเลือกได้ ใครอยากอ่านอะไรจัดหนักให้ได้ เลือกได้เฉพาะข่าวนั้นๆ และจะสามารถดึงความร่วมมือจากผู้อ่านได้มากที่สุด ถ้าให้คนอ่านมีสิทธิตอบโต้ ขณะเดียวกัน เราก็สามารถที่จะสร้างชุมชนเป็นขอตัวเองได้ด้วย ขณะที่เราจะสามารถดึงองค์ความรู้จากฝูงชนมาใช้ประโยชน์ได้
ทำอย่างไรจึงจะเพิ่มคนติดตามได้ ? ดร.มานะ คนที่จะติดตามส่วนหนึ่งมาจากข้อความที่โพสต์หรือทวิต รูปภาพ ข้อมูลเด็ด สำนักข่าวในอนาคตต้องมีกิจกรรมคนบริโภคข่าว ให้คนที่ติดตามข่าวได้มีโอกาสมาเจอหน้ากัน และอีกเรื่องที่คนสนใจคื่อเรื่องซุปซิปนินทาและเบื้องหลังข่าว (ThaiPBSเดี๋ยวนี้เริ่มโพสต์เบื้องหลังการทำข่าว เช่นข่าวน้ำท่วมลงในแฟนเพจในเฟสบุ๊คแล้ว) แตการพูดคุยในลักษณะการตั้งคำถามจะเพิ่มจพนวนคนได้มากกว่า การเขียนข้อมูลก็สำคัญ การลิ้งข่าวที่มีคลิปสั้นๆก็ยิ่งมีโอกาสที่จะมีคนมาคลิกเป็นเพื่อนเพิ่มมากขึ้น หรือจะเป็นอีกหนึ่งช่องทาง ใช้วิธีการขโมยเพื่อน ขโมยเพจ ลองดูว่าเขากดไลค์อะไร หรือเปิดดูว่าแหล่งข่าวฟอโลวใคร
แต่สิ่งที่น่าสนใจสุดๆคือ "เทรนด์ใหม่วงการข่าวใน Social Media"ถ้าสื่อยุคก่อนในวงการข่าวที่ขาดไม่ได้เห็นจะมีบรรณาธิการข่าว ดร.มานะบอกว่า มี 5 ตำแหน่งสำคัญ ที่จะเกิดขึ้นในกองบรรณาธิการข่าวในอนาคต ได้แก่
- Headline Optimiser
- Social media editor
- Data Journalism
- Chief curator
- Explainer Journalism
ขอบคุณข้อมูลจากห้องอบรมเชิงปฏิบัติการนักข่าวดิจิทัลรุ่นที่ 2 ชมรมผู้ผลิตข่าวออนไลน์ และ ดร.มานะ ตรีรยาภิวัฒน์ @dr_mana
บทความต่อไป จะมาคุยเชิงลึก...โลกธุรกิจข่าวไร้พรหมแดนกับกูรูสื่อดิจิทัล อ.ธันยวัชร์ ไชยตระกูลชัย หรือ ขาโหด แห่งรายการ SME ตีแตกช่อง 5 ใครอยากรู้ว่าจะสร้างแบรนด์ให้ตัวเองอย่างไรประเด็นต่อเนื่องห้ามพลาดนะครับ